5/7/51

ลาก่อน

ในช่วงต้นทศวรรษ 1680 บนเกาะมอริเซียส ในมหาสมุทรอินเดียซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของนกโดโด สัตว์ในวงศ์เดียวกับนกพิราบที่มีลักษณะอวบ ไม่อร่อย สูงเกินสองฟุตครึ่งเล็กน้อย บินไม่ได้จึงทำรังบนพื้นดิน ทำให้ไข่และลูกของมันกลายเป็นเหยื่อของหมู สุนัข และลิง ที่คนภายนอกพาเข้ามาบนเกาะ มีนิสัยไม่ฉลาด ไว้ใจคนง่าย และการที่มีขาเก้งก้างที่ไม่มีพลัง ทำให้มันเป็นเหยื่อที่ปกป้องตัวเองไม่ได้ หลังจากนั้น 70 ปี นกโดโดสตาฟฟ์ตัวเดียวที่เหลืออยู่ในพิพิธภัณฑ์ก็ถูกโยนเข้ากองไฟเพราะมันขึ้นรามีกลิ่นเหม็นอับมาก

นี่เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดพันธ์เดียวที่สามารถค้นพบสิ่งมีชีวิตจากสวรรค์ที่ลึกลับที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็ทำลายมันจนสูญสิ้นไป ทั้งที่ไม่มีจุดประสงค์อะไร (เพื่อกินเป็นอาหาร) และทั้งที่มันก็ไม่เคยทำอันตรายแก่เราเลย และมันจะไม่มีวันเข้าใจสิ่งที่เราทำกับมันแม้แต่น้อย ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ในประวัติศาสตร์ มนุษย์ได้ผ่านการฝึกฝนทำลายล้างสิ่งมีชีวิตอื่นจนหมดสิ้นไม่มีเหลือมานานหลายพันปี ไม่ว่ามนุษย์จะไปที่ไหนก็มีแนวโน้มว่าสัตว์ที่นั่นจะมีจำนวนลดน้อยถอยลงไป และบ่อยครั้งที่พวกมันหายไปเป็นจำนวนมากจนน่าตกใจ เช่น สัตว์ใหญ่ราวสามในสี่หายไปจากทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ ส่วนในทวีปออสเตรเลียมันสูญพันธุ์ไปไม่น้อยกว่า 95%

เป็นไปได้หรือไม่ที่พวกล่าสัตว์ซึ่งมีจำนวนน้อยจะล่าสัตว์ที่มีประชากรมากมายได้ (จากการคาดกันว่าที่ราบทุนดรา ทางเหนือของไซบีเรียเพียงแห่งเดียว มีซากช้างแมมมอสกว่าสิบล้านตัวถูกแช่แข็งอยู่) คงต้องมีคำอธิบายอื่นที่เป็นสาเหตุ เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือโรคติดต่อบางชนิด

ทุกวันนี้โลกทั้งโลกมีสัตว์บกตัวใหญ่มากๆ เหลือรอดอยู่เพียงสี่ชนิดเท่านั้น (ช้าง แรด, ฮิปโป และยีราฟ) และในเวลาแค่ไม่กี่สิบล้านปี สิ่งมีชีวิตบนโลกจะมีขนาดเล็กลงและดุร้ายน้อยลงมาก

ในอดีตอัตราการสูญพันธ์บนโลกโดยเฉลี่ยเท่ากันทุกๆ สี่ปี สิ่งมีชีวิตสูญพันธ์ไปหนึ่งชนิด แต่ในปัจจุบันพบว่า การสูญพันธุ์ที่มีสาเหตุมาจากมนุษย์สูงกว่านั้นถึง 120,000 เท่า เช่น สาเหตุจากความโหดร้ายป่าเถื่อนของมุษย์จากความโง่เขลารู้เท่าไม่ถึงการณ์ของมนุษย์ เป็นต้น โดยเฉพาะมนุษย์ที่มีความสนใจสิ่งมีชีวิตบนโลกอย่างยิ่งยวดยาวนานที่สุด (นักสะสมด้านวิทยาศาสตร์) กลับกลายเป็นผู้มีแนวโน้มที่จะทำลายมันมากที่สุด รวมทั้งการตั้งเงินรางวัลของรัฐในการจับ"สัตว์ที่เป็นภัย" (อันหมายถึง สัตว์แทบทุกนิดที่ไม่ได้โตในฟาร์มหรือเป็นสัตว์เลี้ยง)

ไม่มีความคิดเห็น: